ลูกค้าบางรายที่เพิ่งเริ่มใช้อุปกรณ์บ่ม UV LED อาจประสบปัญหาบางอย่างระหว่างการติดตั้ง และยังมีบางจุดที่ต้องพิจารณาเมื่อติดตั้งและใช้อุปกรณ์บ่ม
การติดตั้งของ ระบบยูวีแอลอีดีคล้ายกับระบบหลอดปรอทแบบเดิม แต่สะดวกกว่า ต่างจากหลอดปรอทตรงที่หลอด UV LED ไม่ผลิตโอโซน ไม่ปล่อยรังสีอัลตราไวโอเลตคลื่นสั้นที่ส่งผลกระทบต่อวัสดุ และไม่จำเป็นต้องติดตั้งตัวกรอง เมื่อใช้การระบายความร้อนด้วยของเหลวจะสิ้นเปลืองไฟฟ้าน้อยลง มลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นระหว่างการบ่มมีน้อยมาก ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องจัดการกับปัญหามลพิษทางอากาศที่เกี่ยวข้องกับหลอดปรอทแบบเดิมๆ โดยทั่วไปการติดตั้งอุปกรณ์การบ่มด้วย UV LED จะรวมถึงหลอดฉายรังสี ระบบทำความเย็น แหล่งจ่ายไฟของไดรฟ์ สายเคเบิลเชื่อมต่อ และอินเทอร์เฟซควบคุมการสื่อสาร
ยิ่งระยะห่างระหว่างช่องจ่ายไฟและชิปยิ่งไกลเท่าไร แสงอัลตราไวโอเลตก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น ดังนั้นควรวางช่องจ่ายไฟของหลอดไฟให้ใกล้กับวัตถุที่กำลังบ่มหรือพาหะมากที่สุด โดยทั่วไปจะอยู่ที่ระยะห่าง 5-15 มม. หัวฉายรังสี (ไม่รวมมือถือ) มีรูยึดสำหรับยึดด้วยขายึด หลอด UV ที่มีการควบคุม PWM สามารถปรับรอบการทำงานและความเร็วของสายเพื่อให้ได้ความหนาแน่นของพลังงานที่ต้องการ ในขณะที่ยังคงการฉายรังสีไว้อย่างต่อเนื่อง ในกรณีพิเศษ อาจใช้หลอดไฟหลายดวงเพื่อให้ได้พลังงานที่มีความหนาแน่นตามที่ต้องการ
ความยาวคลื่นที่ปล่อยออกมาจากไดโอดที่ใช้ในระบบ UV LED โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 350-430 นาโนเมตร ซึ่งอยู่ในช่วงแบนด์วิธของ UVA และแสงที่มองเห็นได้ และไม่ขยายไปสู่ช่วง UVB และ UVC ที่เป็นอันตราย ดังนั้น การแรเงาจึงจำเป็นเท่านั้นเพื่อลดความรู้สึกไม่สบายทางการมองเห็นที่เกิดจากความสว่าง และสามารถทำได้ด้วยวัสดุ เช่น แผ่นโลหะหรือพลาสติก ความยาวคลื่นที่ยาวขึ้นก็ไม่ก่อให้เกิดโอโซน เนื่องจากความยาวคลื่นที่ต่ำกว่า 250 นาโนเมตรเท่านั้นที่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนเพื่อผลิตโอโซน ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีการระบายอากาศหรือไอเสียเพิ่มเติมเพื่อกำจัดโอโซน เมื่อใช้ UV LED ควรคำนึงถึงการกระจายความร้อนที่เกิดจากชิป
บริษัท UVET เป็นผู้ผลิตมืออาชีพที่เชี่ยวชาญในการพัฒนาและการผลิตต่างๆแหล่งกำเนิดแสงยูวีแอลอีดีและสามารถนำเสนอโซลูชั่นและการปรับแต่งได้ตามความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการบ่มด้วยรังสียูวี โปรดติดต่อเรา
เวลาโพสต์: 20 มิ.ย.-2024